เมื่อวันที่ ๒๖ - ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ นายอธิปัตย์ โรจนไพบูลย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี ต้อนรับคณะผู้บริหารระดับสูงจาก ๙ บริษัทชั้นนำของไทยเยือนติมอร์ฯ เพื่อสำรวจโอกาสทางการค้าและการลงทุน พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยการเยือนครั้งนี้เป็นข้อริเริ่มของสถานเอกอัครราชทูตฯ และมีธุรกิจไทยที่เข้าร่วมได้แก่ บริษัท ฮิลล์คอฟฟ์ จำกัด บริษัท ซี.พี. คอนซูเมอร์ โพรดักส์ จำกัด บริษัท จาโกต้า บราเดอร์ส เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท โชคมหาชัย เบเวอร์เรจ จำกัด บริษัท โควิก เคทท์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ดับบลิว.โซล่า จำกัด บริษัท สวนอุตสาหกรรมวินโคสท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เพรสิเดนท์โฮเต็ลและทาวเวอร์ จำกัด และบริษัท อัมบูรายา รีสอร์ท จำกัด ครอบคลุมสาขากาแฟ ค้าปลีก อาหารแช่แข็ง เครื่องดื่ม อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการท่องเที่ยว

ในช่วงการเยือน คณะฯ ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจของติมอร์ฯ ผ่านการพบหารือกับผู้แทนภาครัฐ องค์การระหว่างประเทศ เครือข่ายธุรกิจ และการเยี่ยมชมสถานที่ โดยได้เข้าเยี่ยมคารวะนาย José Ramos-Horta ประธานาธิบดีติมอร์ฯ นาย Kay Rala Xanana Gusmão นายกรัฐมนตรีติมอร์ฯ และนาย Mariano Assanami Sabino รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาชนบทและเคหะชุมชนติมอร์ฯ นอกจากนี้ นาย Francisco Kalbuadi Lay รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประสานงานด้านเศรษฐกิจติมอร์ฯ ได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองคณะนักธุรกิจไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ ประมง และป่าไม้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม รวมทั้งผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาลติมอร์ฯ อื่นๆ เข้าร่วมด้วย

นอกจากนี้ คณะฯ ได้รับฟังการบรรยายสรุปจากผู้แทน International Finance Corporation (IFC) และธนาคารโลกประจำติมอร์ฯ และสร้างเครือข่ายกับภาคเอกชนในติมอร์ฯ กว่า ๓๐ ราย ครอบคลุมตั้งแต่สาขาน้ำมันและก๊าซ ธนาคาร และภาคส่วนอื่น ๆ รวมทั้งได้พบหารือกับ TradeInvest ซึ่งเป็นหน่วยงานส่งเสริมการค้าการลงทุนของติมอร์ฯ และหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งติมอร์ฯ (CCI-TL) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในติมอร์ฯ ตลอดจนโอกาสและความท้าทายของภาคเอกชนไทย คณะฯ ยังได้เยี่ยมชมโรงงานแปรรูปกาแฟของบริษัท Timor Global โรงงานผลิตเบียร์ Heineken รวมถึงโครงการพัฒนาของ Dili Development และโรงแรม Palm Spring

เอกอัครราชทูตฯ ย้ำว่าการเยือนติมอร์ฯ ของคณะนักธุรกิจไทยเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการขยายความร่วมมือทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ซึ่งขณะที่ติมอร์ฯ กำลังเตรียมความพร้อมเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนและเปิดประตูสู่การค้าและลงทุนมากขึ้น ไทยเล็งเห็นถึงศักยภาพและการผลักดันการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ซึ่งการเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๔๖ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ซึ่งผู้นำอาเซียนได้ตัดสินใจจะรับติมอร์ฯ เป็นสมาชิกอาเซียนลำดับที่ ๑๑ โดยการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการจะได้รับการรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๔๗ ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๘ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการรวมตัวในภูมิภาคและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนยิ่งขึ้น

ด้วยโอกาสที่น่าจับตามองด้านโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว เกษตรกรรม และตลาดผู้บริโภค การเยือนครั้งนี้นับเป็นเป็นเปิดบทใหม่ของความสัมพันธ์ไทย–ติมอร์ฯ ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้ย้ำว่า การเยือนติมอร์ฯ ของคณะนักธุรกิจไทยสะท้อนความมุ่งมั่นของไทยในการสร้างหุ้นส่วนระยะยาวบนพื้นฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืนและผลประโยชน์ร่วมกันของสองประเทศ

* * * * * * *