วันที่นำเข้าข้อมูล 22 ก.ค. 2558
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2558 เวลา 10.00 น. นางสาวบุษกร พฤกษพงศ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี ได้เข้าเยี่ยมคารวะและพบหารือกับ Assistant Superintendent Jose da Costa. L. CG, DG of Migration Service ของติมอร์ฯ โดยมีนางสาวชลทิพา วิญญุนาวรรณ เลขานุการเอก เข้าร่วมด้วย
ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องกระบวนการตรวจลงตราของติมอร์ฯ และความเป็นไปได้ในการจัดฝึกอบรมของไทยให้ฝ่ายติมอร์ฯ ปัจจุบัน คนไทยที่ถือหนังสือเดินทางเล่มธรรมดา ต้องทำ Visa on Arrival ที่สนามบินกรุงดิลี เมื่อเดินทางถึงประเทศติมอร์ฯ โดยมีค่าธรรมเนียม USD 30 และสามารถขอต่ออายุตรวจลงตราได้อีก 30-60 วัน โดยพำนักอยู่ได้คราวละไม่เกิน 90 วัน ส่วนหนังสือเดินทางทูตและราชการไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางมาทำงานที่ติมอร์ฯ หลังจากที่ทำ Visa on Arrival แล้ว ต้องรีบดำเนินการเพื่อขอ Work Visa ภายใน 90 วัน โดยต้องเตรียมเอกสารสำคัญจากไทยมายื่นประกอบ ได้แก่ ใบรับรองความประพฤติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติและใบรับรองแพทย์ และต้องมีหนังสือจากบริษัทติมอร์ฯ ที่ว่าจ้าง โดยต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือของติมอร์ฯ ก่อน กรมตรวจคนเข้าเมืองจึงจะดำเนินการตรวจลงตราให้ ซึ่งขณะนี้ รัฐสภาติมอร์ฯ กำลังพิจารณาปรับปรุงร่างกฎหมาย และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้เข้มงวดขึ้นในปีหน้า
ปัจจุบัน กรมตรวจคนเข้าเมืองสังกัดกระทรวงกลาโหมและความมั่นคงติมอร์ฯ มีเจ้าหน้าที่ 93 นาย ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สำนักงานในกรุงดิลีและตามจุดผ่านแดนต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรมกับอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย บราซิล และโปรตุเกส และกำลังจะมีการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านตรวจคนเข้าเมืองกับมาเลเซียและอินโดนีเซีย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฎิบัติร่วมกันกรณีเกิดปัญหาบริเวณเขตแดน
ในโอกาสดังกล่าว ออท. แจ้งว่า ฝ่ายไทยพร้อมให้การสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรของติมอร์ฯ ได้กรมตรวจคนเข้าเมืองสามารถยื่นข้อเสนอโครงการผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือนำเรื่องเข้าหารือในการประชุมวิชาการระหว่างไทย-ติมอร์ฯ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
รูปภาพประกอบ
Mon-Fri (Except public holidays)
สำหรับคนไทยขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
(670) 7798 5946 / 7812 5258 [only for Thai national in emergency case]