เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี เข้าพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือ ติมอร์-เลสเต

เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี เข้าพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือ ติมอร์-เลสเต

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 มิ.ย. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565

| 860 view

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2558 เวลา 10.00 น.  นางสาวบุษกร พฤกษพงศ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี ได้เข้าพบนาย Hernani Coelho รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์-เลสเต โดยมีนายชูศักดิ์ กุลวัฒนาพร อัครราชทูตที่ปรึกษา และนางสาวชลทิพา วิญญุนาวรรณ เลขานุการเอก เข้าร่วมด้วย

เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณที่รัฐบาลติมอร์ฯ ได้แจ้งสนับสนุนไทยในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี ค.ศ. 2017-2018 โดยทางการติมอร์ฯ จะมีหนังสืแจ้งอย่างเป็นทางการต่อไป

ในโอกาสดังกล่าว เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งพัฒนาการความสัมพันธ์ไทยและติมอร์ฯ ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นและแนบแน่นระหว่างกันมาโดยตลอด โดยจะมีการเยือนระหว่างกันของคณะต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ อาทิ การเข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีนาย Abel Ximenes รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นหัวหน้าคณะ ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2558 และคณะสำรวจของกรมความร่วมมือระหว่างประเทศและองค์กร Deutsche Gesellschaft für internationale Zusammenarbeit หรือ GIZ ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2558เพื่อประเมินโครงการจัดตั้งหมู่บ้านต้นแบบตามหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้ความร่วมมือไทย-ติมอร์ฯ ด้านเกษตร ระยะ 3 ปี และแสวงหาลู่ทางดำเนินความร่วมมือ 3 ฝ่าย ไทย-ติมอร์ฯ-เยอรมัน ในด้านเกษตรกรรมต่อไป

นอกจากนี้ ไทยได้ให้การสนับสนุนด้านการฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาบุคลากรติมอร์ฯ อย่างต่อเนื่องและมีโครงการต่าง ๆ ในอนาคต อาทิ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติทักษะด้านการทูตแก่บุคลากรกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือติมอร์ฯ โดยนายอิศร ปกมนตรี เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ระหว่างวันที่ 29-30 กรกฎาคม 2558  การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านเกษตร หลักสูตร Training  for Trainers ระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม – 29 สิงหาคม 2558 ตลอดจนการให้ทุนการศึกษาระดับปริญญาโทในสาขาต่าง ๆ แก่ติมอร์ฯ อย่างต่อเนื่อง

รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศฯ ติมอร์ ขอบคุณในความช่วยเหลือที่รับบาลไทยให้แก่ติมอร์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายติมอร์ฯ ให้ความสำคัญและต้องการส่งนักการทูตมาศึกษาที่ไทยเพิ่มเติมทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เพื่อสร้างบุคลากรให้เป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ในสาขาต่าง ๆ ต่อไป

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ