วันที่นำเข้าข้อมูล 30 มิ.ย. 2555
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 21 พ.ย. 2565
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยือนติมอร์-เลสเต อย่างเป็นทางการ
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีกำหนดเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต (the Democratic Republic of Timor-Leste) อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 14-15 มกราคม 2554ซึ่งเป็นการเยือนติมอร์ฯ ครั้งแรกของรัฐมนตรีว่าการฯ นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง โดยในวันแรกของการเยือน นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ดร. โจเซ่ มานุเอล รามอส-ฮอร์ตา ประธานาธิบดีติมอร์ฯ (Dr. José Manuel Ramos-Horta/ President) ดร. โจเซ ลูอิส กูเตอร์เรส รองนายกรัฐมนตรีติมอร์ฯ (Dr. Jose Luis Guterres/ Vice-Prime Minister) นายเฟอร์นันโด ลา ซามา เด อาราวโจ ประธานรัฐสภาติมอร์ฯ (Mr. Fernando La Sama de Araújo/ President of the National Assembly) รวมทั้งได้เข้าพบหารือกับนายซาคารีอัส อัลบาโน ดา คอสตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศติมอร์ฯ (Mr. Zacarias Albano da Costa/ Minister of Foreign Affairs) ด้วย
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับการหารือโดยสรุปว่า วัตถุประสงค์สำคัญของการเยือนครั้งนี้ คือ 1) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการในประเทศทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายจากกระแสโลกาภิวัตน์ 2) เพื่อยืนยันความประสงค์ของไทยที่จะให้การสนับสนุนความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ที่ไทยมีความชำนาญ 3) เพื่อเยี่ยมเยียนสำนักงานสหประชาชาติในติมอร์ฯ ซึ่งไทยมีบทบาทสำคัญโดยให้ความร่วมมือในการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในติมอร์ฯ (United Nations Mission in Timor-Leste หรือ UNMIT)
ทั้งนี้ ในการหารือกับฝ่ายติมอร์ฯ นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ แสดงความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการพัฒนาของติมอร์ฯ ในด้านต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากติมอร์ฯ อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ แต่ยังต้องการการบริหารจัดการที่ดี และขณะนี้ติมอร์ฯ อยู่ระหว่างการจัดทำยุทธศาสตร์แห่งชาติเพื่อการพัฒนา การส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านการเกษตร ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมส่งเสริมการเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงให้กับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรของติมอร์ฯ และการจัดทำโครงการหมู่บ้านต้นแบบตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และในการนี้ ไทยพร้อมที่จะส่งออกข้าวให้แก่ติมอร์ฯ เพื่อบรรเทาปัญหาความขาดแคลนทางด้านอาหารที่ติมอร์ฯ กำลังประสบอยู่ นอกจากนี้ ไทยเสนอที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการศูนย์ดำเนินการ (regional processing center) สำหรับผู้หนีภัย ผู้โยกย้ายถิ่นฐาน หรือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ ไทยพร้อมที่จะสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การพัฒนาท่าเรือและอุตสาหกรรมต่อเรือ การท่องเที่ยว การค้าการลงทุน และความร่วมมือด้านการประมง โดยเสนอให้ฝ่ายติมอร์ ฯ จัดการสัมมนาในประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนในติมอร์ฯ มากขึ้น
ในโอกาสที่ติมอร์ฯ แสดงความมุ่งมั่นที่จะเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนภายในปี ค.ศ. ๒๐๑๒ นั้น รัฐมนตรีว่าการฯ ได้กล่าวว่า ในหลักการ รัฐบาลไทยสนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของติมอร์ฯ เนื่องจากติมอร์ฯ มีที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศที่มีภาวะผู้นำสูง และมี moral authority ในการส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของอาเซียน อย่างไรก็ดี ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN Foreign Ministers’ Meeting) ที่ลอมบอก อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ มกราคม ศกนี้ จะมีการหารือในประเด็นนี้ต่อไป
นอกจากนี้ ในวันแรกของการเยือน รัฐมนตรีว่าการฯ ยังได้เข้าพบหารือและแลกเปลี่ยนทัศนะกับพระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลดิลี ริการ์โด (the Bishop of Diocese of Dili D. Ricardo) เกี่ยวกับบทบาทของศาสนาคริสต์ในติมอร์ฯ และการส่งเสริมด้านการเสวนาเกี่ยวกับความเชื่อและศาสนาต่างๆ (Interfaith Dialogue) และรัฐมนตรีว่าการฯ ยังได้มีโอกาสไปเยี่ยมลูกเรือประมงไทยที่ถูกทางการติมอร์ฯ จับกุมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2553 ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี ได้ประสานกับทางการติมอร์ฯ ในการให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด และขณะนี้กำลังรอส่งตัวกลับประเทศไทย
18 มกราคม 2554
รูปภาพประกอบ
Mon-Fri (Except public holidays)
สำหรับคนไทยขอความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
(670) 7798 5946 / 7812 5258 [only for Thai national in emergency case]